รีวิว Glacier 3000 (ยอดเขากลาเซียร์ 3000) ท้าพิสูจน์ Peak Walk

วันนี้ได้มาลอง สิ่งที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ มาเที่ยวประเทศสวิตเซอร์บ่อยครั้ง จนหลับตาเดินได้แต่ไม่เคยคิดว่า จะมาเจอเหตุการณ์ที่ทำเอาหัวใจเต้นแรงมาก……. นั่นคือ Glacier 3000…… พิสูจน์ความใจถึง…….

ทั้งอยาก ทั้งกลัว แต่ที่ตัดสินใจมาที่นี่เพราะอยากรู้ อยากเห็น อยากลอง ปกติแค่เดินขึ้นสะพานลอยบ้านเรายังกลัวเลย ค่ะ แต่แล้วก็ตัดสินใจมา มาแล้วจะมาไม่ถึงได้ไง ในใจคิดว่า “เอาล่ะ เป็นไงก็เป็นกัน”

คลิปวิดีโอ Anne Loft ข้าม Peak Walk ข้ามระหว่าง 2 ยอดเขา บน ยอดเขา Glacier 3000 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เพราะความกลัว ความกังวล ทริปครั้งนี้ดูเหมือนจะมีเรื่องที่คิดอยู่ในหัวตลอดเวลา……… ในความเป็นจริงการมายุโรปครั้งนี้ มีเวลา เกือบเดือนในการไปสำรวจสถานที่ต่างๆ……. ตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ได้แวะไปฝรั่งเศส ในทุกๆที่ ๆ ไปที่บางแห่งมีการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ไม่ว่าจะโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว

แต่บทความนี้จะขอเล่าประสบการณ์ในการลองสิ่งใหม่ๆเพราะตั้งแต่ทำทัวร์มาก็เดินทางไปที่เดิมซ้ำๆ แต่แท้จริงแล้ว สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นทุกวัน การวางแผนที่จะไปเที่ยวยอดเขานี้จึงเกิดขึ้น…

บางครั้งโอกาสดีๆ ก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง แม้ว่าจะกลัวก็ตาม แต่จะไม่ยอมทิ้งโอกาสดีๆ แบบนี้แน่นอนค่ะ ขึ้นชื่อเป็นนักเที่ยวตัวยงแบบนี้ ครั้งนี้ต้องยอมค่ะ…….

ตะลอนมาหลายเมืองแล้ว แต่ขอเล่าจากการเริ่มต้น ที่จะขึ้นยอดเขากลาเซียร์ 3000 เลยวางแผนมาพักที่เมืองมองเทรอซ์ก่อน

ซึ่งเป็นเมืองที่ถือว่า มีทั้งร้านชิม ช็อป อีกทั้งยังเลือกพักโรงแรมอันดับ 1 ในเมืองนี้ โรงแรม Fairmont Montreux Palace 5 ดาว เนื่องจากที่นี่เป็นที่ ๆ ง่ายต่อการเชื่อมต่อไปยังเมืองอื่นๆ เช่น เวเว่ย์ โลซานน์ เจนีวา อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นเดินทางไปยัง Glacier 3000 ได้อีก

เพราะ Glacier 3000 นี้ เราสามารถนั่งรถไฟ Golden Pass Line จากเมืองมองเทรอซ์ไป ยังเมือง Gstaad ซึ่งเป็นสถานีที่เราต้องลง แล้วต่อรถขึ้นเขาไปยัง Glacier 3000

ต้องยกความดีความชอบ ให้การรถไฟสวิตเซอร์แลนด์ และการท่องเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ นะคะ ที่เค้าให้ความสำคัญกับวิวทิวทัศน์ เค้าภูมิใจนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขา ทะเลสาบ ที่ถือว่าสวยติดอันดับของโลก

บรรยากาศภายในรถไฟ Golden Pass Line มีกระจกบานใหญ่ เบาะที่นั่งใหญ่ สีฟ้า แต่ตัวโบกี้สีทอง ที่สำคัญในรถไฟใหม่ และสะอาดมากๆ ค่ะ พนักงานรถไฟก็เริ่มแจกเมนู Snack ตามที่นั่ง ให้เราสั่งอาหารมาทานได้ ไม่ว่าจะเป็น Sandwich ไวน์ ถั่ว มาม่า……(มาม่า ฮิตมากในสวิตเซอร์แลนด์กันตอนนี้นะคะ รสชาดใกล้เคียงบ้านเรา แค่ไม่เผ็ดจี๊ดเท่าบ้านเราเท่านั้นเองนะคะ)

นั่งชมวิว และถ่ายรูปตลอดทาง ใช้เวลา จากมองเทรอซ์ ประมาณ 3 ชั่วโมง และแล้วเราก็มาถึงสถานี Gstaad เพื่อ ต่อรถขึ้นเขา เมืองนี้ถึงเป็นเมืองเล็กๆ ยังมีนาฬิกา Swiss made ขาย ค่ะ แอบเห็นระหว่างทาง ค่ะ 🙂

พอลงจากสถานี จะมีรถมารอ รถโค้ชสีเหลืองคันนี้จะนำเราขึ้นเขาไปยัง Glacier 3000 นั่งต่อขึ้นไปใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ

ที่ชอบคือวิวข้างทาง ก็สวยไปอีกแบบนะคะ การนั่งรถวนขึ้นเขา ก็จะเห็นหิมะปกคลุม ทิวเขาสีขาวสลับน้ำตาล เป็นริ้วๆ ทำให้เคลิบเคลิ้มกับบรรยากาศ บนรถเราก็สามารถเล่น Wifi ได้นะคะ แต่ไม่มีเวลาเล่นเลยค่ะ มัวแต่ ชะเง้อมองวิวจนเพลิน

และในที่สุดก็มาถึง Glacier 3000 (ใจเต้นสุดๆ) ตื่นเต้นมากไม่รู้ข้างบนจะเป็นอย่างไร และนี่เป็นบรรยากาศด้านหน้า เห็น Cable Car ยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมาก ด้านหลังมีรถจอดอยู่เต็มๆ

ตอนที่ดูข้อมูล เห็น Glacier 3000 เค้ามีกิจกรรมเยอะ แต่ยังจินตนาการไม่ออก คือคิดในใจว่าอะไร คือ Peak Walk อะไรคือ Roller Coaster คิดอยู่ในใจ ไปๆก่อนเดี๋ยวเห็นเอง

เมื่อมาถึงด้านหน้า Glacier 3000 ถึงกับอึ้ง เนื่องจาก Cable Car ใหญ่มาก ใหญ่กว่า บ้านบางหลังก็ว่าได้นะคะ ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเจอมา

กับการต้อนรับเป็นอย่างดี CEO มารับข้างล่างตรงที่ซื้อตั๋ว ในความเป็นจริงตอนนั้น ฟ้าข้างล่างมืดคิดในใจว่าขึ้นไปก็ไม่เห็นอะไรแล้ว แต่ใครจะรู้ล่ะว่า ข้างล่างมืดข้างบนสว่างไสว เพราะเค้ามีกล้อง แบบ Live ให้เราเห็นอากาศข้างบนแบบ Real Time สรุปว่าได้ขึ้น เพราะอากาศข้างบนเคลียร์ฟ้าเปิดสวยมากๆ CEO บอกให้รีบๆเลย 555555

และแล้วให้เจ้าหน้าที่พาเรานั่ง Cable Car ขึ้นไป การขึ้น Cable Car นั้นสูงชันค่อยๆไต่ระดับขึ้นไปให้ถึง 3000 เมตรจากระดับน้ำทะเล แต่ Cable Car จะเปลี่ยน 2 Steps นะคะ ภายใน Cable Car จะใหญ่มากๆ ตอนนั้นตื่นเต้นมากๆค่ะ มันวืดเลย เพราะภูเขาชันมากค่ะ แต่ไม่น่ากลัวอะไร เพราะภายในใหญ่มากตอนที่เค้านำเราขึ้นไปแทบจะไม่รู้สึกเลยก็ว่าได้

เมื่อไปถึงก็เดินขึ้นไปอีกหน่อย ผ่านภัตตาคาร อันอบอุ่น มีเด็ก คนแก่ วันรุ่น ทุกวัยมาจัดสัมมนา และมาเล่นกิจกรรมสกี เพราะเดินสวนกับนักเล่นสกี คนเริ่มเยอะ อบอุ่นและอุ่นใจ ในภัตตาคารมีเมนูเด็ดๆให้นั่งทานฟองดูว์ชมวิวได้อีกด้วยนะคะ

หลังจากนั้นขึ้นลิฟท์ต่อไปยังชั้น 4 และขึ้นบันได ต่อก็จะเห็นทางขึ้นไปยัง Peak Walk

ในเบี้องหน้าเป็นสะพานเหล็กแขวนกับสายเคเบิ้ลที่ทอดยาวไปปลายยอดเขาอีกยอด ( เหงื่อตก) พื้นเป็นตระแกรง เห็นข้างล่างเป็นหุบเขา ในความเป็นจริงสารภาพว่าเป็นคนกลัวความสูงม้ากกกกกก ค่ะ สะพานแอบแกว่งด้วย…….ทำไงดี

แต่เอาน่า ไหนๆก็ไหนๆละ มาขนาดนี้ ใครๆก็เดิน เด็กอายุ 2 ขวบยังเดินเลย เหอๆ ตัดใจเดินค่ะ พอเดินไป ก็เริ่มตื่นเต้น ที่ตื่นเต้นไม่ได้กลัวแต่ ลืมความกลัวเพราะ ตื่นเต้นกับวิวค่ะ สวยมาก อยากยืนอยู่ตรงกลางนานๆ แต่บังเอิญแอบหนาว เลยรีบเดินไปยังจุดหมายปลายทาง บอกตรงๆ สนุกมากค่า ไม่กลัวแล้วๆๆ ดีใจที่เอาชนะตัวเองได้ ตอนนี้ไม่หวั่นแล้วค่ะ

ข้ามไปเจอคนที่เค้ามาเล่นสกี ทุกคนเป็นมิตร รู้สึกว่าโลกนี้กว้างใหญ่มากนัก มีอะไรที่เราไม่รู้และไม่เคยคิดจะยอมรับมัน ในการมาครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า การสะสมประสบการณ์ เป็นกำไรชีวิต

ทริปครั้งนี้มีความสุขมากค่ะ มีทั้งความสุข ความรู้ มิตรภาพ และที่สำคัญคือไม่น่ากลัวอย่างที่ใครๆ คิดนะคะ 🙂

ยอดเขา Glacier 3000 มี Package ให้เราเลือกนะคะ เค้าจะมี Optional ให้เราเลือก เช่น Snow Tank, สุนัขลากเลื่อน, Alpine Coaster (รถไฟเหาะ Roller Coaster บนยอดเขา)

สุดท้ายนี้ประสบการณ์ต่างๆ ก็เริ่มมาจากความกล้า การอยากเรียนรู้ที่จะลอง จะทำให้เราได้รับโอกาสที่ดีอย่างไม่คาดฝันเลยก็ว่าได้นะคะ