เรตินเอ และ สกินนอเรน ต่างกัน อย่างไร

ผู้หญิงหลายๆ ท่านอาจเจอปัญหาเดียวกับแอน คือ เป็นสิว และ ฝ้า มารุมเร้า แก้หายจุดนึง โผล่มาอีกจุดนึง ไม่รู้จะ เริ่มและจบตรงไหน ไปหาหมอจนเหนื่อย

โดยปกติแอนเป็นคนผิวบางมาก บางจนเห็นเส้นเลือด ค่ะ ซึ่ง พี่สาวก็แอนทุกคนหน้าก็บาง เป็นทั้งฝ้า ลึก ฝ้าตื้น กระลึกกระตื้น เห็นแล้ว จิตตก เพราะ มันต้องมาถึงเราซักวัน แล้วมันก็จริง ค่ะ

ก่อนหน้านี้ เริ่มจากการเป็นฝ้าเลือด อยู่ๆ ก็เห็นหน้าตัวเองดำ เป็นแผ่นเหมือนมีขี้ไคลเป็นคราบ อุอุ เอามือไปถูๆ ออกไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ นอกจากรอยแดงเป็นจ้ำ ผสมความดำของฝ้า (อยากจะกรีดร้องไปถึงโลกที่ 3 ) คืออีมา แบบไม่รู้ตัว

ไปหาหมอ ก็ยอมรัย ในระดับนึงนะคะ ว่า ช่วยได้ สำหรับ Laser บางตัว เพราะลองมา เยอะเหมือนกัน ใช้มันทั้งหน้า โดนมาทั้งหน้า เดี๋ยวตอนต่อไป มาเล่า นะคะ ว่า ก่อนหน้านี้เจอสงคราม หนังมายังไง เอาเป็นว่า วันนี้ ยังไม่ออกทะเล แต่อดีตที่เพิ่งผ่านมาไม่ นาน และ ปัจจุบัน ที่ใช้อยู่

สิ่งที่เคยใช้ก็จะมี เรตินเอ ที่ใช้ ลอกฝ้า (ซึ่งเป็นผลพลอยได้) และ ปัจจุบันเลิกใช้ เปลี่ยนมาเป็น Skinoren คือไม่ใช่ไม่ชอบ เรตินเอนะคะ แต่ใช้ 2 ตัวหนังหน้า จะดูคล้ายการผ่านสงครามโลกยังไงยังงั้นค่ะ

คุณสมบัติ 2 ตัวมีหน้าที่คล้ายกันนะคะ แต่ ผลลัพธ์ และ Side effect ต่างกันบ้างค่ะ

คุณสมบัติ เรตินเอ

1. เรตินเอ ช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า
2. รักษาสิว ช่วยลดสิวอุดตันบนใบหน้า แต่ไม่เหมาะกับสิวอักเสบ
3. ช่วยลดความมันบนใบหน้า

แนะนำให้ ใช้ในปริมาณน้อยๆเริ่มจากเปอร์เซนต์น้อย ก่อน เช่น 0.0125% และให้ทาก่อนล้างหน้า 3-5 นาทีแล้วล้างออก และค่อยตามด้วย moisture อีกครั้ง และใช้อาทิตย์ละ 3 ครั้ง (ตามคำวินิจฉัยของแพทย์) นะคะ ถ้าหน้าใครที่ทนได้ไม่ระคายเคือง ค่อยเพิ่มเวลาทา และ เปอร์เซนต์ ซึ่งบางคนสามารถใช้ทาแล้วนอนหลับทั้งคืนเลยได้ค่ะ

สำหรับเปอร์เซนต์น้อย ก่อน เช่น 0.0125% ก็ต้องหาซื้อจากคลีนิค หรือ รพ นะคะ แต่ถ้าซื้อเองก็จะได้ อ่อนสุดคือ0.025% เพราะยานี้จะมีคุณสมบัติทำให้หน้าเรียบเนียน และ ขาวใส แต่ต้องอดทนใช้จนสถาพผิวหน้าปรับได้ แต่ถ้าหากมีการระคายเคือง เป็นผด แห้ง เป็นขุย แดง ให้หยุดใช้จนกว่าหน้าจะกลับมาสภาพแข็งแรงแบบปกติ แล้วสามารถกลับมาใช้ได้อีก ได้ค่ะ รับรองหน้าใสและเนียน ผิวละเอียดแน่นอนค่ะ

สิ่งที่สำคัญคือ ต้องระวังอย่าให้โดนแดด และต้องใช้แค่กลางคืนเท่านั้นนะคะ กลางวันไม่ให้ใช้ และถ้ากลางวันต้องออกแดดก็ให้ใช้ ครีมกันแดด ด้วยค่ะ เพราะยานี้ ได้ผลดีจริงแต่ ทำให้ ผิวเรา Sensitive กับแสงแดดมากๆค่ะ ใช้อย่างน้อย 3 เดือนหน้าใสเป็นไข่ปลอกเลยค่ะ

ต่อมา คุณสมบัติ สกินนอเรน

1. เป็นผลิตภัณฑ์รักษาสิว รอยสิวแดง รอยดำ และเป็นไวท์เทนนิ่งที่ช่วยให้ผิวขาวได้เลยค่ะ มีส่วนผสม Azelaic acid ยังเป็นกรดที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติซึ่งยังยั้งเม็ดสี และทำให้สีผิวขาวเหมือนเดิม
2. สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ต้องใช้ครีมกันแดด ช่วงกลางวันด้วยนะคะ
3. ช่วยกำจัดแบคทีเรียและ ลดสิวอุดตันบนใบหน้า
4. นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ช่วยลดการเจริญของผิวหนังที่หนาขรุขระ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน

ผลข้างเคียง Skinoren cream อาจทำให้ผิวหน้าระคายเคือง เกิดอาการลอก แสบ แดง เป็นขุย ได้ในระยะแรกที่ใช้ เพราะฉะนั้นหากเราต้องการรักษาสิวด้วย Skinoren cream แล้วล่ะก็ควรหาครีมบำรุงผิวหรือมอยเจอไรเซอร์ทาเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ด้วยนะคะ ถ้าจะให้เห็นผล ควรใช้เช้า เย็น และ ระยะเวลา 6 เดือนนะคะ 🙂

ในความเห็นส่วนตัวชอบ ทั้ง 2 เลยค่ะ Retin A ให้ 4/5 ส่วน Skinoren ให้ 4.3/5 ต่างกันนิดหน่อย ถ้าไม่ห่วงเรื่องการออกแดด เท่านั้นเองค่ะ